- Propylene glycol ซึ่งโดยปกติแล้วนั้น ของ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า แล้วนั้น Propylene glycol และ Vegetable glycerin หรือในวงการเรียกกันสั้น ๆ ย่อ ๆ ว่า PG และ VG โดย 2 สิ่งนี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญและแบรนด์ผู้ผลิตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็มักที่จะนำมาแสดงไว้ที่ข้างขวดอยู่เสมอ โดยส่วนประกอบทั้งสองตัวจะมาในอัตราส่วนที่สมดุลกัน เช่น 70/30, 50/50 โดยจะใช้ VG เป็นตัวแรก เพื่อที่จะได้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้ผู้ใช้ได้เลือกตัดสินใจ
- สารแต่งกลิ่นและรสชาติ เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญในการสร้างความสุนทรีย์ในการสูบพร้อมทั้งยังช่วยสร้างอรรถรส โดยจะเป็นสารที่สามารถละลายน้ำได้ และนิยมผลิตโดยบริษัทที่ผลิตเครื่องปรุงรสหรือบริษัทที่ผลิตกลิ่นสำหรับอาหารโดยที่จะมีไปตั้งแต่กลิ่นยาสูบไปจนถึงกลิ่นของขนมต่าง ๆ ผลไม้ต่าง ๆ ที่เป็นอีกหนึ่งอย่าที่ช่วงดึงดูดใจผู้ใช้อีกเหมือนกัน
- สารที่ช่วยให้ความหวาน เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้ เปรียบเสมือนผงชูรสที่ช่วยให้อรรถรสการสูบดียิ่งขึ้นเพิ่มรสชาติได้อย่างลงตัว
- นิโคติน ส่วนสำคัญของชาวสายควัน เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนหันมาใช้งาน บุหรี่ไฟฟ้า กันมากยิ่งขึ้น โดยผู้ผลิตก็จะมีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ใส่ตัวของนิโคตินในปริมาณที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ไม่ใส่เลย 0% ไปจนถึง 5% หรือ 50 มิลลิกรัมเทียบเท่าบุหรี่จริงเลยก็มี
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มีวันหมดอายุหรือไหม แล้ววิธีการเก็บรักษาเราต้องทำอย่างไงบ้าง
ถึงแม้ว่าเราใช้งานน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหนักแค่ไหน สีของมันอาจเปลี่ยนไปได้โดยอาจจะเข้มขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าตัวนั้นได้เสียไปแล้วแต่อย่างใด ซึ่งอายุการใช้งานของ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปีโดยอิงจากวันที่ผลิตนั่นเอง แต่ทว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็อาจจะเสียคุณสมบัติหรือประสิทธิภาพได้กรณีที่ตัวของน้ำยาไปเจอกับความร้อนนาน ๆ หรือโดนออกซิเจนเวลาปิดฝาไม่สนิท แต่ถึงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่ชอบความร้อน การนำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามาใส่ในตู้เย็นก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี วิธีเก็บให้ดีที่สุดคือการเก็บในตู้ที่มีอุณหภูมิปกติและห่างจากแสงแดด
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นอันตรายไหมหากโดนผิวผู้ใช้งาน หรือหากดื่มกินเข้าไป
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหากเป็นตัวที่ไม่มีนิโคตินที่สูงมากนั้น จะไม่เป็นอันตรายต่อตัวผู้ใช้ไม่ว่าจะโดยผิวหรืออาจเผลอกินเข้าไป ท่านก็เพียงแค่ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด หรือถ้ากินเข้าไปก็ควรที่จะดื่มน้ำตามเข้าไปมากๆ เพื่อให้สารนิโคตินนั้นได้เจือจางไป แต่ถึงอย่างไงก็แล้วแต่ถ้าผู้ใช้นั้น ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้จริงๆ มีเหตุให้ต้องเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างเช่นมีการสัมผัสโดยตรงกับสารนิโคตินตั้งแต่ 30 มิลลิกรัมขึ้น เช่นเคยทั้งก็เพียงแค่ล้างน้ำเปล่าเท่านั้น แต่ถ้ากินเข้าไปด้วยควรรีบดื่มน้ำตามเข้าไปให้มากที่สุดๆ แล้วถ้าหากอาหารยังไม่ดีขึ้นก็ควรรีบพบแพทย์ เพื่อที่จะไม่ได้ให้อาการที่ผิดปกติเกิดขึ้นโดยที่ท่านไม่คาดคิด ทั้งนี้เป็นเพียงแค่วิธีการเบื้องต้นเท่านั้น ผู้ใช้ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก