คณะแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยพบผู้ป่วย ปอดอักเสบรุนแรง EVALI มีประวัติใช้บุหรี่ไฟฟ้าชนิดพอตไฟฟ้าทุกวันประมาณ 6 เดือน เจอไขมันในปอดที่ไม่เคยเกิดขึ้นในโรคอื่น ห่วงแนวโน้มพุ่ง เหตุเข้าถึงง่าย คนเข้าใจผิดว่าปลอดภัย โดยมุ่งหวังให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องของอันตรายจาก บุหรี่ไฟฟ้า ที่ได้มีการวิจัยและค้นคว้าหาข้อมูลในด้านอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกิดขึ้นในสังคมวงกว้าง ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะวัยรุ่นมีความเข้าใจผิดร้ายแรงว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตราย โดยคิดว่าควันไอละอองจากบุหรี่ไฟฟ้า เป็นเพียงละอองน้ำ ไอน้ำมีเพียงสารปรุงแต่งมีกลิ่นหอม อ้างว่าสูบชนิดที่ไม่มีนิโคติน ซึ่งในความเป็นจริง ควันไอละอองจากบุหรี่ไฟฟ้าที่เห็นมีฝุ่นขนาดเล็ก มีสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น ฟอร์มาร์ลดีไฮด์ ไดอะซิทิล และอโครลิน รวมทั้งโลหะหนักที่เป็นพิษ เช่น นิกเกิล ดีบุก และตะกั่ว ที่มาของโลหะหนักอาจจะมาจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์สูบที่โลหะหนักหลุดลอยจากขดลวดที่ชุบน้ำยา
อเมริกาได้เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า
แพทย์สมาคมแห่งสหรัฐอเมริกาได้เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากไม่ปลอดภัย มีผลกระทบต่อการเกิดโรคปอดซึ่งเป็นวิกฤตทางด้านสาธารณสุขของประเทศโดยในตอนนั้นมีผู้ป่วยรายงานปอดอักเสบที่มีโอกาสสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-cigarette or Vaping product use Associated Lung Injury (EVALI) สูงถึง 450 ราย ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจำนวนมาก และมีผู้ป่วยเสียชีวิตทั้งหมด 7 รายได้ ในระยะเวลา เพียงแค่ 2 เดือน (รายงานเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน 2562) จากนั้นศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ ได้มีการประกาศและเฝ้าระวังโรค มีรายงานโรคจากทั่วประเทศ 50 รัฐ รวมถึงเขตโคลัมเบีย และเขตปกครองของสหรัฐอเมริกา 2 แห่ง คือ เปอร์โตริโกและหมู่เกาะเวอร์จินยอดผู้ป่วยจนถึงวันที่ 18 ก.พ.2564 พบผู้ป่วย EVALI ที่ต้องนอนโรงพยาบาลทั้งสิ้น 2,807 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 68 ราย หลังจากผู้คนมีความตระหนัก ก็มีการควบคุมการใช้ มีการนำสารเคมีบางชนิดออกจากผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้รายงานจำนวนผู้ป่วย EVALI ในสหรัฐอเมริกาน้อยลง
ยอดผู้ป่วยจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปอดอักเสบเพิ่มมากขึ้น
ศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในยอดที่ผู้ป่วยที่รายงาน 2807 รายจนถึง ก.พ.2564 นั้น มีอายุเฉลี่ยเพียง 24 ปี ผู้ป่วยที่อักเสบเฉียบพลันจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 2022 ราย 14% สูบบุหรี่ไฟฟ้าเฉพาะที่มีสารนิโคติน 33% สูบบุหรี่ไฟฟ้า เฉพาะที่มีสารกัญชา 53% สูบ บุหรี่ไฟฟ้าหลายประเภท ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่วิตามินอะซีเตตในสารกัญชาเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรง นอกจากนี้รายงานสำรวจขององค์การอนามัยโลก ในวัยรุ่นไทย พบการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 6-7% เป็น 10% ใน 5 ปี อีกทั้งเด็กประถมเข้าถึงซื้อได้ แบบพอร์ตที่ใช้แล้วทิ้ง และอ้างผู้ปกครองว่า ไม่ใช่บุหรี่ไฟฟ้า เพราะไม่มีการชาร์จไฟ ส่วนกรณีได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสองนั้น ผู้ที่ได้สูดดมควันบุหรี่ไฟฟ้า จะได้รับฝุ่นขนาดเล็ก รวมไปถึงนิโคติน หากอยู่ในพื้นที่ปิดอาจส่งผลต่อความดันและชีพจรของผู้ที่ได้สูดดมควัน การทดลองในหนูทดลองที่รับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสองดมทุกวัน มีปอดอักเสบใน 1 เดือน เกิดถุงลมโป่งพองได้
